ต้นเหตุเกิดจาก  เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว  การต่อสัญญาของ  โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ มีการเรียกร้องค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 4แสนปอนด์  จากการเปิดเผยของเอเย่นต์ส่วนตัว   และมีเสียงเรียกร้องให้  เจอร์เก้น  คล็อปป์  และผู้บริหารของ  ลิเวอร์พูล ยอมรับข้อเสนอของดาวยิงทีมชาติอียิปต์  ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง  ด้วยผลงานการรั้งตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสร  และพรีเมียร์ลีก  เกือบทุกซีซั่น  และเขามีส่วนสำคัญที่ช่วยพาทีมประสบความสำเร็จ  ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก , แชมป์ลีกสูงสุด , ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ  และ แชมป์สโมสรโลก

     ผสมกับดราม่าการซื้อนักเตะใหม่ที่หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทำได้แค่คว้า  อิบราอิมา  โคนาเต้  เข้ามาเพียงคนเดียว  ในขณะที่คู่แข่งต่างก็ทุ่มเงินกันไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์  ยิ่งทำให้กระแสกดดันเจ้าของทีม  มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังดีที่  เปิดฤดูกาล หงส์แดง ลิเวอร์พูล  ทำผลงานได้น่าพอใจ และดูดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการได้  หลุยส์  ดิอาซ  มาเสริมทัพในตลาดหน้าหนาว  จนทำให้ทีมมีลุ้นถึง 4 แชมป์ เรื่องนี้ก็ค่อยเงียบหายไป  

     แต่ก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง  หลังจบฤดูกาลล่าสุด  การคว้าได้เพียง 2 แชมป์บอลถ้วยในประเทศ กับการพลาด 2 แชมป์ใหญ่ รวมทั้งการที่  ซาดิโอ  มาเน่  ออกมาประกาศขอย้ายทีม  หลังจากจบนัดชิงชนะเลิส  แชมป์เปี้ยน ลีก  ทำให้ แฟนหงส์  ตั้งคำถามกับนโยบายของ แฟนเวย์ อีกครั้ง

การต่อสัญญาที่ล่าช้ากับ ซาล่าห์  และ  มาเน่  มาจากสาเหตุเดียวกันก็คือ  ลิเวอร์พูล ไม่สามารถตอบสนองค่าเหนื่อยระดับ 3-4 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ให้กับนักเตะได้  หรืองกนั่นเอง  เนื่องจากคำว่า  เพดานค่าเหนื่อย  

     เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คือ คนที่รับเงินสูงสุดของทีมอยู่ที่ 2.2 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ รองลงมาก็คือ ติอาโก้  อัลคันทาร่า และ ซาล่าห์  รับอยู่ที่ 2แสนปอนด์เท่ากัน  ในขณะที่  ซาดิโอ มาเน่  ที่กำลังจะย้ายทีมรับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 1 แสนปอนด์เท่านั้น น้อยกว่านักเตะที่ดูจะเป็นส่วนเกินของทีมอย่าง  อเล็กซ์ อ็อกเลก-แซมเบอร์เลน ที่รับอยู่ 1.2 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์  จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เจ้าตัวอยากจะขอเพิ่มในสัญญาฉบับใหม่