ไฟนอลแฟนตาซี จากรากฐานของเกม RPG ของซีรีส์ Final Fantasy แต่ใน Dissidia Final Fantasy NT นั้น กลับห่างไกลจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยเปลี่ยนแนวจากการต่อสู้แบบ Turn Based กลายเป็น Real Time Action พร้อมเพรียงมากับเหล่าดาราชั้นนำจากในแฟรนไชส์นี้ โดยมีเรื่องราวเป็นเอกเทศน์ ที่นำเอาเรื่องราวมาจากจักรวางที่แตกต่างของซ๊รีส์มารวมกันนั่นเอง

รูปแบบเกมที่หลากหลาย มีทั้ง 3 ต่อ 3 Multiplayer ที่ทำได้ค่อนข้างดี มีหลายๆคนที่ชอบ

หลังจากที่เคยวางจำหน่ายเมื่อปี 2015 บนแพลตฟอร์ม Arcade Square Enix และ Teamninja ก็ได้นำการต่อสู้แบบ 3 ต่อ 3 Multiplayer มายัง PS4

แต่ตัวเกม ไฟนอลแฟนตาซี ที่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก และ Solo Campaign ที่เหมือนกับทำออกมาได้ยังไม่สุด ทำให้ใน Dissidia Final Fantasy NT อาจจะลืมสิ่งสำคัญที่จะทำให้ซีรีส์นี้เป็นที่จดจำ จึงส่งผลให้เกิดเป็นจุดด่างของประวัติศาสตร์แฟรนไชส์นี้นั่นเอง

ไฟนอลแฟนตาซี

เนื้อเรื่องโดยประมาณของซีรี่นี้ จะยังคงคล้ายๆ กับภาคก่อนๆ โดยนำภาคต่างๆ มารวมกันซึ่งน่าสนใจมากๆ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้า และ Spiritude และด้วยเหล่าฮีโร่ และวายร้าย จากจักรวาลต่างๆ มาร่วมในสงครามครั้งนี้ Theme หลัก ยังคงคล้ายกับ Dissidia ในภาคก่อนๆ โดยเหมือนการยำใหญ่โลกของ Final Fantasy ที่ฉากต่างๆ ก็ยังนำมาจากในแต่ละภาคของซีรีส์ ซึ่งหลายๆ ด่าน ก็ยังคงอารมณ์

และสไตล์จากภาคเดิมไว้ได้อย่างดี ผนวกเข้ากับดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาค รวมถึงเจ้า Mugle ที่จะโผล่มา Tutorial ให้กับเรานั้นเอง

ระบบการต่อสู้ที่ยังคงเน้นความอลังการ ที่ยังคงเป็นเสน่ห์ของซัรีย์เกมๆ นี้อยู่ ซึ่งหลายคนนั้นต้องเอ่ยปากชมเลย

หมวดเนื่องเรื่องหลัก Dissidia Final Fantasy NT พยายามจะนำเสนอการต่อสู้ที่วุ่นวาย เข้ากับฉาก Service แฟนๆ อีกด้วย การได้เล่นเป็นฮีโร่มากมายใน Final Fantasy ทีต้องต่อสู้กับคู่ปรับเก่า แม้ว่าเหล่า Cut Scene จะยังคงมีเสน่ห์ตามสไลต์ของซีรีส์ แต่เนื้อเรื่องหลักเอง กลับดูเหมือนยังขาดอะไรไปหลายอย่าง รวมไปถึงการเล่าเรื่องต่างๆ ก็ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก

การดำเนินเรื่องจะใช้ระบบ Node Based System ซึ่งเหล่าคัทซีน และการต่อสู้ที่สำคัญ จะต้องใช้จำนวน Memmoria เพื่อปลดล็อค โดยผู้จะเล่นจะต้องเก็บค่าประสบการณ์เหล่านี้ จากหมวดอื่นๆ เพื่อนำเอาโทเคน มาใช้ปลดล็อคในโหมดแคมเปญนั่นเอง ซึ่งจุดนี้เอง ทำให้อารมณ์ในโหมดแคมเปญนั้น ขาดตอนได้บ่อยๆ

รวมไปถึงการต่อสู้กับบรรดาเหล่าบอส ที่ควรจะน่าตื่นเต้น แต่ผู้เล่นจะได้ต่อสู้กันก่อนในโหมดอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถสร้างอิมแพคให้กับเนื้อเรื่องได้เท่าที่ควรนั่นเอง

ไฟนอลแฟนตาซี

การโจมตีของตัวละครนั้นโจมตีได้ 2 รูปแบบ โดยหากมีการวางแผนการโจมดีมาเป็นอย่างดีแล้วนั้นจะค่อนข้างได้เปรียบเลยทีเดียว

การต่อสู้ใน Dissidia Final Fantasy NT นั้น ผู้เล่นจะต้องมีการวางแผนการโจมตี โดยตัวละครสามารถโจมตีได้ 2 รูปแบบ คือ Brave Attack และ HP Attack โดย Brave Attack จะทำการลดแถบพลังของศัตรู และเพิ่มให้กับฝั่งเรา ซึ่งถ้าค่า Brave Attack ยิ่งสูง การโจมตี HP Attack ของเรา ก็จะแรงขึ้นด้วย

นอกจากนั้น ยังสามารถรวบรวมพลังงานจากคริสตัล ที่จะถูกวางไว้แบบสุ่ม ซึ่งพลังงานนี้สามารถเรียกใช้มรสุม ที่ใช้ประโยชน์ต่อการต่อสู้ได้ค่อนข้างมากนั่นเอง

ขนาดของสนามการต่อสู้นั้น ค่อนข้างใหญ่ ดังนั้น การเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องทำอย่างระมัดระวัง และตั้งรับอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่ง การต่อสู้ต่างๆ นั้น ค่อนข้างต่อเนื่อง และเมื่อผู้เล่นเริ่มเข้าถึงจังหวะของเกมแล้ว ก็จะสามารถวางแผนต่างๆ และโต้กลับได้นั่นเอง

Credit : PS4

เรียบเรียงโดย : fethiyehabermerkezi.net